หุนเตี๋ยง) ท่านเกิดเมื่อวันที่ 24 เดือน 6 จีน ในศักราชเอี่ยงฮี ปีพุทธศักราช 703 ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นฮวนเต้ และเสียชีวิต ลง เมื่อวันที่ 12 เดือน 7 จีน ในศักราชเคี่ยงเซ้ง ปี พุทธศักราช 762 ในรัชสมัยของ พระเจ้าฮั่น เฮี่ยนเต้
คิ้วโก่งดั่งตัวหนอนไหม หนวดเคราสีดำงาม ยาวละเอียด ท่านเป็นชาวอำเภอไก่เหลียง มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ ราว 9 ฟุต จีน หรือประมาณ 6 ศอก หนวดยาว 1 ศอก มีอาวุธเป็นง้าวรูปจันทร์เสี้ยว เรียกว่า “ ง้าวมังกรเขียว ” หรือ “ ง้าวมังกรจันทร์ ฉาย ” ยาว 11 ศอก หนัก 82 ชั่ง
พบกับเศรษฐีคนหนึ่งรังแกชาวบ้าน จึงฆ่าเศรษฐีคนนั้นตาย ชาวเมืองไก่เหลียงต่างยกย่องท่าน แต่ทางการกลับประกาศจับ ท่านจึงต้องหลบหนีออกจากเมืองไก่เหลียง เร่ร่อนไปทั่วประเทศจีน เป็นเวลานานถึง 6 ปี จนถึงด่านถงกวน นายด่านพบ พิรุธ จึงสอบถามชื่อแซ่ท่าน ด้วยอารามตกใจ ท่านจึงชี้ไปที่ชื่อด่าน “ ถงกวน ” ( ในภาษาจีนกลางคำว่า “ กวน ” แปลว่า “ ด่าน ” ) ทำให้นายด่านนั้นเข้าใจว่าท่านแซ่กวน หลังจากนั้นเป็นต้นมาท่านจึงเปลี่ยนชื่อจาก เผิงเสียน เป็นกวนอู ระหว่างการหลบหนีผ่านด่านนอกเมืองนั้น ท่านได้ไปล้างหน้า เทพเจ้าได้ดลบันดาลให้หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงจน นายด่านจำหน้าไม่ได้ จึงผ่านออกมาได้ ต่อมาองค์กวนอูได้พบกับเล่าปี่และเตียวหุยที่ตุ้นก้วน ทั้งสามจึงสาบานเป็นพี่น้อง กันในสวนดอกท้อ ต่อมาองค์กวนอูได้ร่วมรบกับเล่าปี่ปราบโจรโพกผ้าเหลืองจนราบคาบ แต่เล่าปี่กลับได้เป็นแค่นายอำเภอ อันห้อก้วน ส่วนน้องทั้งสองก็ไม่ได้รับตำแหน่งใด ๆ ยังคงเป็นเพียงคนสนิทของเล่าปี่เหมือนเดิม ต่อมามีเจ้าเมืองชื่อต๊กอิ้ว มาตรวจราชการอำเภออันห้อก้วน เล่าปี่ไม่มีสินบนให้จึงถูกต๊กอิ้วเขียนฎีกาถวายฮ่องเต้ว่าเล่าปี่กบฏ เตียวหุยโกรธจัดจึงเฆี่ยน ต๊กอิ้ว เล่าปี่เห็นท่าไม่ดี จึงหนีออกมาพร้อมกับน้องทั้งสอง ต่อมาทั้งสามก็ได้ระหกระเหินเร่ร่อน กวนอูนั้นก็ได้สร้างวีรกรรม มากมาย ทั้งการบุกเดี่ยวหนีออกมาจากโจโฉมาหาเล่าปี่ทั้ง ๆ ที่โจโฉพยายามทำทุกวิถีทางที่จะมัดใจกวนอู แต่ก็ไม่เป็นผล สำเร็จ ฝ่า 5 ด่าน สังหาร 6 ขุนพลของโจโฉ และในคราวศึกเซ็กเพ็ก โจโฉ แตกทัพ หนีไปตามเส้นทางฮัวหยง ท่านก็ได้รับ มอบหมายจากขงเบ้ง ให้นำกำลังทหารมาดักรอจับกุมโจโฉ แต่ทว่าโจโฉ กลับพูดจาให้องค์กวนอูระลึกถึงบุญคุณครั้งก่อน จน ท่านใจอ่อน ยอมปล่อยให้โจโฉหลุดรอดไป |
|||||||
แห่งกังตั๋ง จนเสียเกงจิ๋ว ท่านพยายามตีฝ่ากำลังทหารที่ล้อมเมืองเป๊กเสีย เพื่อชิงเกงจิ๋วกลับคืน แต่โดนกลอุบายจับตัวไปได้ ซุนกวนพยายามเกลี้ยกล่อมให้ท่านยอมจำนนและสวามิภักดิ์ แต่ก็ไม่สำเร็จ ซุนกวนจึงสั่งประหารองค์กวนอู พร้อมกับ กวนเป๋ง บุตรบุญธรรม ในเดือนสิบสองของปี พ.ศ. 762 ด้วยความจงรักภักดี และซื่อสัตย์ องค์กวนอูจึงถูกยกย่องให้เป็น "เทพเจ้าแห่ง ความซื่อสัตย์" ที่มีผู้คนนับถือมากมาย มาจน ถึงปัจจุบัน ภายหลังจากที่องค์กวนอูตายไปแล้ว ซุนกวนได้ส่งศีรษะกวนอูไปให้โจโฉที่ฮูโต๋ หมายจะป้ายความผิดไปยังโจโฉ ให้องค์ เล่าปี่เชื่อว่าโจโฉน้ันเป็นผู้สั่งประหารองค์กวนอู เล่าปี่จะได้ยกทัพไปทำศึกกับโจโฉ แต่โจโฉรู้เท่าทันกลอุบายของซุนกวน จึงคิดจัดงานศพให้แก่องค์กวนอูอย่างสมเกียรติ โดยนำไม้หอมมาต่อเป็นหีบใส่ศีรษะองค์กวนอู แต่งเครื่องเซ่นไหว้ตาม บรรดา ศักดิ์ขุนนางผู้ใหญ่ ครั้นเมื่อโจโฉเปิดหีบศีรษะขององค์กวนอูดู ก็พูดอย่างเยาะเย้ยว่า "กวนอู ท่านสบายดีหรือ ตอน ท่านยังมี ชีวิตอยู่ท่านไม่เคยมาหาข้าพเจ้า แม้ข้าพเจ้าจะรั้งตัวท่านไว้ ท่านก็ไม่ยอมอยู่ แต่บัดนี้ท่านตายแล้ว กลับมาหา ข้าพเจ้า" พลัน หัวขององค์กวนอูก็ลืมตาขึ้น โจโฉตกใจมาก ระล่ำระลักว่า กวนอูนี้ศักดิ์สิทธิ์นัก สั่งการให้ทหารทั้งหมดแต่ง กายขาวไว้ทุกข์ ให้แก่กวนอู ยกย่องให้เป็นอ๋องแห่งเกงจิ๋ว และนำศีรษะขององค์กวนอูฝังไว้ ณ ประตูเมืองลกเอี๋ยง หรือลัวหยางทางด้านทิศใต้ จารึกอักษรที่หลุมฝังศพว่า "ที่ฝังศพเจ้าเมืองเกงจิ๋ว" ทั้งยังให้ตั้งศาลบูชากวนอู ที่นอกเมือง ลกเอี๋ยงอีกด้วย ต่อมาหลังจาก นั้นโจโฉก็มักจะปวดศีรษะ และเห็นภาพหลอนอยู่บ่อย ๆ ไม่นานก็เสียชีวิตลง |
|||||||
|
ประวัติเทพเจ้ากวนอูแสดงความคิดเห็น |
|
ความคิดเห็น